สสส. มุ่งขับเคลื่อน “ธนาคารเวลา” สู่การดูแลสังคมอย่างยั่งยืน
- ทบทวนวรรณกรรมธนาคารเวลาในต่างประเทศ และงานวิจัยประกอบการจัดตั้งธนาคารเวลาในประเทศไทย
- สังคมสูงอายุ: ระเบียบวาระแห่งชาติ (ปี 2561-2564) มีธนาคารเวลาเป็น 1 ในมาตรการเร่งด่วน
- MOU ธนาคารเวลาสำหรับการดูแลผู้สูงอายุสำหรับประเทศไทยระหว่าง สสส. และ กรมกิจการผู้สูงอายุใน 44 พื้นที่ชุมชนท้องถิ่น
- จัดตั้งธนาคารเวลานำร่อง โดยภาคี สสส.
- ธนาคารเวลา ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่
- ธนาคารเวลาชุมชนภูเขาทอง ต.เขาโกรกพม่า จ.นครสวรรค์
- ธนาคารเวลาพื้นที่เขตภาษีเจริญ
- ธนาคารเวลาเครือข่ายสวนโมกข์
- ธนาคารเวลา ถูกกำหนดเป็นวาระกลางของ สสส.
- พัฒนาระบบข้อมูลธนาคารเวลาโดย สสส. ร่วมกับ สวทช.
- พัฒนาธนาคารเวลาต้นแบบ
- ต้นแบบธนาคารเวลาในชุมชนท้องถิ่น ธนาคารเวลา ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่
- ต้นแบบธนาคารเวลาชุมชนเมืองใน 6 พื้นที่ครอบคลุม 28 ชุมชน (เขตภาษีเจริญ สัมพันธวงศ์ ชุมชนบนพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เขตห้วยขวาง วังทองหลาง)
- ต้นแบบธนาคารเวลาในองค์กร (ศูนย์บริการสาธารณสุข 56 โรงพยาบาลราชวิถี คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
- จัดตั้งธนาคารเวลาจังหวัดสุรินทร์
- ขับเคลื่อนธนาคารเวลาต่างๆ
- ประเมินผลการดำเนินงานธนาคารเวลาในระยะที่ 1
- ขยายผลการจัดตั้งธนาคารเวลาพื้นที่ จ.ลำปาง เชียงราย
- ขยายผลจัดตั้งธนาคารเวลาภาษีเจริญใน 7 ชุมชน
- พัฒนาระบบข้อมูลธนาคารเวลาระยะที่ 2 และ LINE application โดย สสส. ร่วมกับ สวทช.
- จัดตั้งธนาคารกลาง จ. เชียงใหม่
หลังจากที่ คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ได้มีมติเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 กำหนดให้ธนาคารเวลา เป็น 1 ใน 10 ประเด็นเร่งด่วนด้านผู้สูงอายุ ปี 2561 – 2564 เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เริ่มดำเนินงานธนาคารเวลาสำหรับการดูแลผู้สูงอายุไทย พร้อมกับมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการดำเนินงานธนาคารเวลาสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ โดยมี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เข้าร่วมขับเคลื่อนธนาคารเวลา
เป้าหมายหลักของ สสส. ในการดำเนินงานโครงการธนาคารเวลา
เป้าหมาย : สร้างสุขภาวะ สังคมไม่ทอดทิ้งกัน สังคมที่แตกต่างกัน
1.
สร้างความเข้าใจในหลักการ และการมีส่วนร่วม
สร้างความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้องผ่านการเข้าพบ การประชุม การใช้สื่อ ฯลฯ
2.
การพัฒนากลไก แนวทางการดำเนินงาน
พัฒนากลไก แนวทางการดำเนินการในพื้นที่นำร่องเครือข่าย
3.
การพัฒนาเครือข่าย
สนับสนุน และจัดกระบวนการเสริมศักยภาพ พัฒนาเครื่องมือช่วยเครือข่ายในการดำเนินงาน
4.
การจัดการความรู้ KM
จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่าย
5.
การสื่อสารสาธารณะ
เผยแพร่ผลการดำเนินงานในรูปแบบต่างๆ
ผลผลิตระยะสั้น
- เกิดความเข้าใจและสามารถนำมาประกอบการพัฒนาแผนงานโครงการภายใต้ภารกิจของแผน
- เกิดพื้นที่/องค์กรนำร่องเพื่อเป็นการพัฒนารูปแบบที่เหมาะสม
- เกิดข้อเสนอเชิงนโยบายการขับเคลื่อนขยายผล
- การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่าย
ผลผลิตระยะกลาง
- เกิดพื้นที่ต้นแบบในการดำเนินงานธนาคารเวลา
- เกิดเครือข่ายธนาคารเวลาเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะ
ผลผลิตระยะยาว
- เกิด National Timebank
เป้าหมายหลักของ สสส. ในการดำเนินงานโครงการธนาคารเวลา คือ การพัฒนานวัตกรรมระบบ กลไกต่าง ๆ เพื่อรองรับสังคมสูงวัยให้เกิดกลไกและนโยบายที่สามารถดำเนินงานอย่างยั่งยืน ในเรื่องของการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สร้างความเท่าเทียมกันในสังคม รวมทั้งสามารถเป็นเครื่องมือหนึ่งในการขยายแนวคิดและโอกาสในการทำงานสร้างเสริมสุขภาพได้ จึงนำมาหนุนเสริมกับงานของ สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) สสส. ซึ่งมีผู้สูงอายุเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายในการดำเนินงาน ก่อนจะขยายแนวคิดนี้ไปเชื่อมภารกิจกับสำนักอื่นใน สสส.ต่อไป
บทบาทหลักของ สสส. ในการดำเนินงานธนาคารเวลา
ได้แก่
- สนับสนุนนักวิชาการ ได้แก่ ผศ.ดร.เนตร หงษ์ไกรเลิศ ผู้อำนวยการโครงการธนาคารเวลาสำหรับทุกกลุ่มวัยภาษีเจริญ มหาวิทยาลัยสยาม และ ผศ.ดร.กุลธิดา จันทร์เจริญ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อพัฒนาชุมชน (ศวพช.) ทำการวิจัย ศึกษา เรื่องธนาคารเวลาของต่างประเทศที่มีผลงานในการดำเนินการเรื่องธนาคารเวลาอย่างชัดเจน และจัดทำเอกสารข้อมูลเพื่อเป็นตัวตั้งต้น สำหรับศึกษาแนวทางการดำเนินงานธนาคารเวลาของไทย
- สนับสนุน ภาคีเครือข่าย ที่มีความสนใจหาแนวคิดใหม่ในการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ โดยการสร้างต้นแบบการดำเนินงานในพื้นที่นำร่อง ในระยะแรกมีพื้นที่ที่มีความพร้อมและสนใจเข้าร่วม 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ภาษีเจริญ พื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ พื้นที่ตำบลชมภู อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาได้มีพื้นที่สวนโมกข์ ซึ่งมีความสนใจในการทำงานเรื่องธนาคารเวลา มาร่วมเป็นทีมนำร่องเพิ่มอีก 1 แห่ง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การดำเนินงานธนาคารเวลาในพื้นที่นำร่องของภาคีเครือข่าย ถือได้ว่าบรรลุเป้าหมายหลักของ สสส. ในการพัฒนาการทำงานจากพื้นที่นำร่องไปสู่การเป็นพื้นที่ต้นแบบ และเริ่มดำเนินงานขยายผล มีหน่วยงานต่างๆ ให้ความสนใจที่จะนำกลไกธนาคารเวลาไปใช้เสริมการทำงานในองค์กรประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะในระดับชุมชนที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ รวมทั้งยังมีการยกระดับการทำงานในพื้นที่เดิมให้สามารถดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนมากขึ้น
- ธนาคารเวลาตำบลชุมภู ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่
- ธนาคารเวลาชุมชนเขาโกรกพม่า ต.ภูเขาทอง จ.นครสวรรค์
- ธนาคารเวลาใน 8 พื้นที่ ของ จ.เชียงใหม่ และเชียงราย
- ธนาคารเวลา จ.สุรินทร์
ชุมชนเมือง
- ธนาคารเวลาเครือข่ายภาษีเจริญ
- ธนาคารเวลาบวร 11 ชุมชน
- ธนาคารเวลาสัมพันธวงศ์
- ธนาคารเวลาเครือข่ายมูลนิธิพุทธิกา
กึ่งเมือง
- ธนาคารเวลาเครือข่ายบางศรีเมือง จ.นนทบุรี
- ธนาคารเวลามีดีที่ท่าพูด จ.นครปฐม
องค์กร
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 56 ทับเจริญ
- โรงพยาบาลราชวิถี
- ธนาคารเวลาจิตเวชชุมชน ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
- คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ธนาคารเวลาเครือข่าย LPP (คอนโด LPN)
- ธนาคารเวลาเครือข่าย Young Happy
- ธนาคารเวลาเครือข่ายสวนโมกข์ กรุงเทพ
อย่างไรก็ตาม สสส. ยังคงเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องแก่ภาคีเครือข่ายธนาคารเวลา เพื่อสร้างเสริมศักยภาพในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การจัดการความรู้ต่าง ๆ เพื่อให้แต่ละพื้นที่สามารถพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง และสามารถบริหารจัดการธนาคารเวลาให้ดำรงอยู่ได้ในระยะยาว รวมถึงการพัฒนา “ธนาคารเวลากลาง” สำหรับช่วยหนุนเสริมหรือเป็นตัวกลางในการประสานเชื่อมโยงให้เกิด “เครือข่ายธนาคารเวลา” และสามารถแลกเปลี่ยนเวลาข้ามธนาคารได้ในอนาคต
นอกจากมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อการสร้างต้นแบบธนาคารเวลาในระดับปฏิบัติการ และสนับสนุนเชิงวิชาการดังที่กล่าวมาข้างต้น สสส.ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญในความร่วมมือกับหน่วยงานหลัก ทั้งในระดับชาติอย่าง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รวมถึงกระทรวง กรมต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเชื่อมประสานการดำเนินงานให้มีการสนับสนุนภารกิจซึ่งกันและกัน อันจะเป็นการตอบสนองความต้องการของชุมชนและสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม และมีความยั่งยืนได้ในอนาคต